ปืนไรเฟิล

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

สงครามเกาหลี


สงครามเกาหลี เป็นความขัดแย้งทางทหารระหว่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) กับสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) โดยเกาหลีเหนือได้รับการสนับสนุนทางการทหารจากสาธารณรัฐประชาชนจีนและสหภาพโซเวียต ส่วนเกาหลีใต้ได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ โดยเริ่มตั้งแต่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1950 (พ.ศ. 2493) จนถึงการลงนามในสัญญาหยุดยิงของทั้งสองฝ่ายเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1953 (พ.ศ. 2496) สงครามครั้งนี้เป็นผลมาจากการแบ่งแยกประเทศเกาหลีทางการเมืองด้วยข้อตกลงของฝ่ายสัมพันธมิตรในการปลดอาวุธกองทัพญี่ปุ่นเมื่อสิ้นสุดสงครามมหาเอเชียบูรพา กล่าวคือ บริเวณคาบสมุทรเกาหลีอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิญี่ปุ่นนับตั้งแต่ ค.ศ. 1910 จนกระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมจำนนต่อสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1945 นั้น คณะผู้บริหารญี่ปุ่นฝ่ายอเมริกาได้แบ่งให้กองทัพสหรัฐอเมริกาเข้าปลดอาวุธทหารญี่ปุ่นในเขตตั้งแต่เส้นขนานที่ 38 องศาเหนือลงมา ส่วนบริเวณที่อยู่เหนือเส้นขนานที่ 38 องศาเหนือนั้นอยู่ในความควบคุมของสหภาพโซเวียต[25]
ความล้มเหลวในการจัดการเลือกตั้งอย่างเสรีในคาบสมุทรเกาหลีในปี ค.ศ. 1948 ทำให้ความแตกแยกของประเทศเกาหลีทั้งสองฝั่งร้าวลึก ประเทศเกาหลีฝั่งเหนือได้จัดตั้งรัฐบาลคอมมิวนิสต์ขึ้น เส้นขนานที่ 38 องศาเหนือได้กลายเป็นเส่นแบ่งแดนระหว่างทั้งสองเกาหลีไปโดยปริยาย แม้การเจรจาเพื่อการรวมชาติจะดำเนินต่อไปในช่วงหลายเดือนก่อนเกิดสงครามก็ตาม แต่สถานการณ์ยังคงตึงเครียด ยังคงมีการรบพุ่งและการปล้นสะดมตามแนวตะเข็บชายแดน สถานการณ์ได้บานปลายไปสู่การทำสงครามแบบเปิดเผยเมื่อเกาหลีเหนือส่งกองทัพบุกเข้าสู่เกาหลีใต้ในวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1950[26] การรุกดังกล่าวกลายเป็นความขัดแย้งทางทหารครั้งสำคัญครั้งแรกที่เกิดขึ้นในยุคสงครามเย็น[27]
องค์การสหประชาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือสหรัฐอเมริกา ได้ยื่นมือให้ความช่วยเหลือเกาหลีใต้ในการขับไล่ผู้รุกราน หลังจากในช่วงต้นสงคราม สหประชาชาติได้ทำการส่งกองกำลังเข้ามาขับไล่กองทัพเกาหลีเหนือจนถอยร่นจากเส้นขนานที่ 38 จนเกือบถึงแม่น้ำยาลู สาธารณรัฐประชาชนจีนจึงได้ประกาศให้ความช่วยเหลือกองทัพคอมมิวนิสต์ของเกาหลีเหนือ [26] การต่อต้านการรุกรานเกาหลีเหนือโดยกองทัพจีนทำให้ฝ่ายสหประชาชาติต้องถอยร่นกลับมาที่แนวเส้นขนานที่ 38 ด้านสหภาพโซเวียตได้ให้การช่วยเหลือจีนและเกาหลีเหนือด้วยการสนับสนุนด้านอาวุธ ภัยคุกคามจากสงครามนิวเคลียร์ได้ยุติลงในการลงนามในสัญญาหยุดยิงซึ่งกำหนดให้ทั้งสองเกาหลีคงเขตแดนของตนไว้ตามแนวเส้นขนานที่ 38 องศาเหนือ และกำหนดเขตปลอดทหาร (DMZ) ในระยะ 2.5 ไมล์ (4 กม.) เป็นกันชนตามแนวพรมแดนของทั้งสองประเทศ
ระหว่างสงคราม ทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ต่างก็ได้รับการสนับสนุนจากชาติมหาอำนาจ ทำให้สงครามดังกล่าวแปรสภาพจากสงครามกลางเมืองไปสู่สงครามตัวแทนระหว่างขั้วอำนาจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสงครามเย็น ในมุมมองของวิทยาศาสตร์การทหาร (military science) สงครามเกาหลีเป็นการผสานแผนยุทธการและยุทธวิธีของทั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 กล่าวคือ ใช้วิธีการจู่โจมอย่างรวดเร็วด้วยทหารราบและสนับสนุนด้วยการจู่โจมทางอากาศเพื่อทิ้งระเบิดในทางยุทธวิธี การปฏิบัติการรบแบบเคลื่อนที่ได้เปลี่ยนไปสู่การทำสงครามสนามเพลาะนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1951 จนกระทั่งถึงช่วงคุมเชิงและทำสัญญาหยุดยิงในปี ค.ศ. 1953

ประวัติ

แนวเขตยึดครองของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ระหว่างการสู้รบ สีแดงคือฝั่งเกาหลีเหนือ สีเขียวคือฝั่งเกาหลีใต้ เส้นขนานกลางภาพคือเส้นขนาน (เส้นรุ้ง) ที่ 38 องศาเหนือ
ประเทศเกาหลีโดนยึดครองโดยประเทศญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้ ประเทศเกาหลีได้รับอิสระ สหรัฐอเมริกาได้ช่วยญี่ปุ่นในการฟื้นฟูดินแดน เนื่องด้วยเกาหลีอยู่ติดกับประเทศอื่นๆรอบด้าน โดยด้านเหนือของเกาหลีติดกับประเทศจีน และทางใต้ติดกับญี่ปุ่นซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของอเมริกานั้น การปกครองที่แตกต่างของประเทศรอบด้านจึงเข้ามามีอิทธิพลต่อประเทศเล็กๆที่อยู่ตรงกลางระหว่างมหาอำนาจ จีนและสหภาพโซเวียดที่มีการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ ญี่ปุ่นและอเมริกาที่มีการปกครองแบบประชาธิปไตย เกาหลีที่ซึ่งได้รับอิสรภาพ จำเป็นต้องมีผู้นำ แต่หากว่าประชากรที่มีในขณะนั้นมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป ส่วนที่ติดกับจีนก็เห็นว่าการปกครองแบบคอมมิวนิสต์เป็นสิ่งที่ดี แต่อีกด้านที่อยู่ติดกับญี่ปุ่นและอเมริกาก็เห็นว่าการปกครองแบบประชาธิปไตยดี จึงเป็นเหตุให้เกิดการแบ่งแยกการปกครองออกเป็นสองแบบ คือแบบคอมมิวนิสต์และประชาธิปไตย เมื่อเกาหลีทั้งสองชาติมีความเห็นที่ต่างกันแล้ว เกาหลีที่รับการปกครองแบบคอมมิวนิสต์มานั้น มีความต้องการอยากที่จะให้เกาหลีที่มีการปกครองที่ต่างกันมีการรวมชาติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน จึงส่งกำลังทหารเข้ายึดเกาหลีส่วนที่รับการปกครองแบบประชาธิปไตย ด้วยวิธีการรวมชาติแบบที่ผิดไป จึงทำให้เกิดสงครามเกาหลีขึ้น จึงเป็นเหตุให้เกาหลีแบ่งออกเป็นสองส่วน คือเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ โดยมีเส้นแบ่งอยู่ที่เส้นขนานที่ 38

สงครามเริ่มต้น

วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2493 ทหารฝ่ายเกาหลีเหนืออาศัยอาวุธยุทโธปกรณ์ของโซเวียตบุกข้ามเส้นขนานที่ 38 ลงมา วันที่ 28 มิถุนายน ก็สามารถยึดกรุงโซลได้ สหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีแฮร์รี เอส. ทรูแมน ได้สั่งการให้นายพลดักลาส แมกอาร์เทอร์ ผู้บัญชาการภาคพื้นแปซิฟิกในขณะนั้น ให้ทำการตอบโต้
วันที่ 5 กรกฎาคม ปีเดียวกัน กองทัพสหรัฐได้บุกเข้าสู่เกาหลีเหนือ
สหประชาชาติได้ลงมติให้ยกกองกำลังเข้าช่วยเหลือเกาหลีใต้ กองกำลังสหรัฐอเมริกาจึงเข้าร่วมกับกองกำลังของสหประชาชาติ ซึ่งประกอบด้วยกองกำลังของอีก 15 ชาติ (รวมประเทศไทย) ในตอนแรกนั้นดูเหมือนว่าฝ่ายสหประชาชาตินั้นจะเป็นฝ่ายที่ถอยร่นมาโดยตลอดเป็นเพราะทางสหรัฐมีการดำเนินนโยบายยุโรปก่อนจึงให้กำลังพลกับแมคอาเทอร์ไม่เต็มที่ ซึ่งทำให้แมคอาเทอร์โกรธมากจึงออกคำสั่งให้นำกำลังพลอเมริกันในแปซิฟิกมาใช้ก่อน หลังจากที่สหรัฐเริ่มให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เกาหลีเหนือก็ได้แต่ถอยร่นจนไปถึงเส้นขนานที่ 38

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น